วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

The Salton Sea (2002): แค้นนี้ต้องพี้ยา

The Salton Sea (2002) :
หากจะเอ่ยถึงชื่อ D. J. Caruso คอหนังหลายคนคงจะทำหน้าเอ๋อๆ ประมาณว่าหมอนี่เป็นดีเจสถานีวิทยุคลื่นไหนฟะ? แต่ถ้าบอกว่าเขาเป็นคนกำกับหนังดังอย่าง Eagle Eye (2008), Taking Lives (2004) และ Disturbia (2007)ล่ะก็ คราวนี้คงจะลบสระเอทิ้งไปได้เลย (อ๋อ) พร้อมกับพากันโพล่งขึ้นมาเสียงแปร๋นว่า'คนนี้นี่เอ๊งง'กันเป็นแถบแน่เชียว (หรือจะยังเอ๋ออยู่หว่า?)


ก๊วนขี้ยาประจำเรื่อง
แต่ก่อนที่เขาจะมาถูกหวยเพราะหนังแอบดูเพื่อนบ้านจนงานเข้าอย่าง Disturbia เกิดฮิตเกินคาด(พ่อหนุ่มหน้ามน Shia LaBeouf ก็แจ้งเกิดอย่างงดงามจากเรื่องนี้) เขาเคยแจ้งเกิดด้วยหนังอาชญากรรมขี้ยาหักเหลี่ยมโหดเรื่องนี้ โดยได้อดีตแบทแมน(ที่ปัจจุบันกลายเป็นบิ๊กแมนไปแล้ว อิอิ)อย่าง Val Kilmer (Batman Forever [1995]) มาเล่นบทขี้ยาที่เป็นสายตำรวจ โดยเขามีอดีตอันแสนชีช้ำคอยหลอกหลอน จนกลั่นออกมาเป็นแผนการแก้แค้นหักเหลี่ยมสุดบรรเจิดที่ต่อให้เอายาบ้ากี่ขาๆ มาแลกก็คงไม่ยอมล่ะทีนี้


ลายพร้อยมาเชียวนะพ่อคุ๊ณ
แม้จะมาด้วยเรื่องราวอาชญากรรมหักเหลี่ยมแบบเดิมๆ แถมยังมีหลายอย่างบังเอิญเกินไปนิด แต่หนังก็น่าสนใจขึ้นมาได้โขเพราะสไตล์การเล่าเรื่องที่ดูจะมีชั้นเชิงอยู่พอตัวทีเดียว ไม่ว่าจะด้านอารมณ์ขันเก๋ๆ งานตัดต่อ งานด้านภาพที่ล้วนส่งเสริมให้หนังดูเพลินทั้งสิ้น อีกทั้งหนังยังได้บรรดานักแสดงคุ้นหน้าหลายคนมาช่วยสร้างสีสัน ซึ่งแต่ละคนก็มาด้วยลุคที่น่าสนใจทั้งนั้น โดยเฉพาะเฮีย Kilmer พระเอกเราที่มาในสภาพไอ้หนุ่มขี้ยาลายสักพร้อยที่พกความแค้นมาตุงกระเป๋า(แบบเมาๆ นะ)ก็ทำหน้าที่ได้เข้าท่าไม่ใช่น้อยเลยล่ะ


งานด้านภาพเข้าท่าทีเดียว
ดูแล้วก็น่าเสียดายที่ทุกวันนี้เฮีย Kilmer แกจะอ้วนฉุและกลายสภาพจากดาราดังเป็นตัวประกอบไม่ก็ตัวโกงไปซะแล้ว แต่ยังไงซะก็ถือว่านี่เป็นหนังเรื่องท้ายๆ ในสมัยยังรุ่งของแกที่เข้าท่าน่าจดจำ ในขณะที่ ผกก. Caruso เราก็ถือว่านี่เป็นหนังเรื่องแรกที่เปิดตัวได้ไม่เลวเลย จนส่งผลให้เขาได้ทำหนังต่อมาอีกหลายเรื่องซึ่งคอหนังล้วนรู้จักกันดี และนี่ได้ข่าวว่าเขากำลังจะได้กำกับหนังจากเกมแอ็คชั่นสยองขวัญบนอวกาศอย่าง Dead Space ออกฉายในปี 2013 อีกด้วย ว้าว! คอหนังและคอเกมก็ต้องรอดูกันต่อไปว่างานนี้ผู้กำกับแต่ดันชื่อดีเจของเราจะมีทีเด็ดอะไรมาฝากอีกจ้า


เกม Dead Space กำลังจะถูกสร้างเป็นหนังแล้ว(ตามฟอร์ม)
  • น่าดูเพราะ: เป็นหนังอาชญากรรมที่มีสไตล์การเล่าเรื่องที่น่าสนใจพอสมควร และเป็นหนังเรื่องท้ายๆ ครั้งสมัยยังรุ่งของพระเอก Val Kilmer ในบทนำที่เข้าท่า
  • ไม่น่าดูเพราะ: เรื่องราวไม่เกินคาดเดา และหลายอย่างดูบังเอิญเกินไปนิด จนเกือบจะกลายเป็นหนังอาชญากรรมธรรมดาๆ ไปซะแล้ว




*ช่วงเพลงในหนัง*

วง Trantic กับชื่อวงที่ใช้ฟ้อนท์ออกแนวภาษาไทยนะเนี่ย
หนังมีเพลงหลากหลายแนวทั้งศิลปินรุ่นเก่าๆ อย่าง Dean Martin, Patsy Cline, Nina Simone และศิลปินรุ่นใหม่(แล้ว)อย่าง The Chemical Brothers, Moby, Blink 182 และเพลงที่เราเลือกมาฝากคือเพลงของ Tantric วงร็อคจาก เคนตั๊กกี้ อเมริกา ที่ชื่อ Mourning จากอัลบั้มชุดแรกชื่อเดียวกับวงที่ออกเมื่อปี 2001 โดยหนังใช้เพลงนี้ในช่วงเอนด์เครดิต ฟังแล้วได้อารมณ์ร็อคแบบซึ้งๆ แมนๆ สไตล์มะกันดีนักเชียว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น