วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Lucy (2014): อึ๋มพลังเทพ


Lucy (2014): อึ๋มพลังเทพ

     นานน๊านเสี่ย Luc Besson แกจะกำกับหนังออกมาสักเรื่อง เพราะมัวแต่คอยทำหน้าที่เป็นป๋าดันให้ลูกน้องได้ทำหนังซะส่วนใหญ่ แล้วจู่ๆ ก็มีหนังเรื่องนี้ออกมา ซึ่งก็ทำเงินระเบิดระเบ้อซะด้วยสิ แบบนี้ไม่ดูไม่ได้แล้ว

     หน้าหนังประกาศตัวว่าเป็นหนังแอ็คชั่นพลังเหนือมนุษย์เท่ๆ ซึ่งก็จริงเพราะบางอารมณ์แล้วนี่มันหนังยอดมนุษย์ดีๆ นี่เอง แต่ระดับเสี่ยแกแล้ว มันมีอะไรมากกว่านั้น ซึ่งก็คือความเป็นไซไฟแฝงปรัชญาที่พูดชวนคนดูมึนอย่างกับมาจากหนังไตรภาค The Matrix ปน The Tree of Life (2011) (ป๊าด)

     ดูๆ ไปแล้วหนังก็โม้ใหญ่ได้ไฮคอนเซ็ปท์ดีแท้ เสียแต่ว่าไอ้บรรดาฉากเด็ดๆ เท่ๆ ดันมาโผล่ในเทรลเลอร์หนังเกือบหมดแล้ว และยังมีบทที่ชวนคาใจอยู่หลายจุด (อาทิ ช่วงแรกนางเอกไว้ชีวิตตัวโกงใหญ่เพื่ออะไร ทั้งๆ ที่ฆ่าคนอื่นหมดได้อย่างไม่ลังเล? หรือการที่พวกมาเฟียเกาหลีกล้าบุกไปชิงตัวผู้ต้องหาถึงฝรั่งเศสอย่างเอิกเกริกในสถานที่ๆมีตำรวจคุ้มกันอย่างแน่นหนา ฯลฯ)

     นี่จึงไม่ใช่หนังที่ดูเอามันส์จบแล้วก็จบกันไป แต่ทิ้งอะไรให้เราต้องขบคิดและเอาไปถกกันได้อย่างเถิดเทิง อย่างรอบที่เราดู พอหนังจบคนดูต่างลุกขึ้นออกจากโรงอย่างเงียบๆ มึนๆ ซึ่งคงอยู่ในอารมณ์ประมาณว่า "หนังอะไรของมันวะเนี่ย?!" ไม่ใช่ว่าหนังไม่ดีหรือดูยากเกินความเข้าใจนะ แต่มันเกินคาดไปจากหน้าหนังแยะเลยต่างหาก อ่า...เสี่ย Besson เล่นกูแล้วไง อิอิ

     ปล.เสี่ยแกออกมายอมรับว่าที่จริงหนังได้รับอิทธิพลแรงๆ จากหนังในตำนานสามเรื่องอันประกอบด้วย Léon (1994), Inception (2010) และ 2001: A Space Odyssey (1968) นะจะบอกให้



ไม่เสียฟอร์มเสี่ยครับ เรื่องนี้ 6/10



วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Teenage Mutant Ninja Turtles (2014): สี่เต่าสะท้านนิวยอร์ค


Teenage Mutant Ninja Turtles (2014): สี่เต่าสะท้านนิวยอร์ค

     การพยายามรีบู๊ตหนังการ์ตูนนินจาเต่าครั้งนี้มาในยุคที่เทคโนโลยีการสร้างภาพยนตร์เจริญก้าวหน้ามากพอที่จะเนรมิตให้คนสามารถประชันบทบาทกับตัวละครซีจีได้แบบเนียนๆ

     ลืมไปได้เลยกับเต่านินจาในชุดยางเห่ยๆ ของหนังทั้งสามภาคที่ออกฉายช่วงต้นยุค 90 (ถึงตอนนั้นเราจะดูออกว่านั่นมันคนในชุดยางแต่ก็ยังดูหนังได้เพลินๆ ด้วยความที่ยังเป็นเด็ก อิอิ)

     พอรู้ว่าเสี่ย Michael Bay แกอำนวยการสร้างก็หวั่นอยู่นิดๆ ว่าจะออกมา "เยอะ" ลากยาวจนเฝือแบบ Transformers หรือเปล่า แต่ปรากฏว่าไม่เลย แถมหนังยังเดินจ้ำอ้าวรีบมารีบไปไม่ยอมเสียเวลาอ้อยอิ่งด้วยซ้ำไป ซึ่งก็ดีนะ เพราะนี่มันหนังประเภทที่ไม่ต้องการการปูพื้น การเสนอแง่จิตวิทยาของตัวละคร หรือเหตุผลตรรกะใดๆ อยู่แล้วล่ะ

     หนังค่อนข้างเป็นมิตรกับเด็กๆ ดังนั้นอะไรๆ จึงอยู่ในระดับที่เบาๆ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ผู้ใหญ่คิดเยอะดูแล้วอาจมีมึน แต่ก็ยังมีช่วงเวลาแห่งความบันเทิงมอบให้อยู่บ้างนะ (ซึ่งก็ไม่มาก)



จะเอาอะไรมากกับหนังที่มีบรรดาเต่าสูงหกฟุตเดินสองขาที่พูดได้ปร๋อแถมเป็นนินจามาคอยปกป้องเมืองนิวยอร์คอีก ให้ 5/10 ครับ





วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2557

The Expendables 3 (2014): รวมพลคนพันธุ์เหี่ยว



The Expendables 3 (2014): รวมพลคนพันธุ์เหี่ยว

     และแล้วก็เดินทางมาถึงภาคที่สามจนได้ สำหรับหนังรวมดาวนักบู๊จากยุค 80-90 ซึ่งนำขบวนโดยเสี่ย Sylvester Stallone ที่ถึงแกจะแก่จนหนังตาตก ในวัย 68 ขวบแล้ว แต่ก็ยังฟิตพอจะไล่เตะตูดคนรุ่นลูกรุ่นหลานได้แบบสบายๆ

     แถมคราวนี้เสี่ยแกจัดเต็ม ระดมพลคนพันธุ์เหี่ยวมาพะบู๊กันแบบเหี่ยวๆ ยิ่งกว่าครั้งใดๆ ที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์หนังแอ็คชั่นระเบิดภูเขาเผาเพิงหมาแหงน จนสามารถนับอายุอานามของพวกพระเอก (กับโจรอีกหนึ่ง) ทั้งเหี่ยวมากเหี่ยวน้อยสิริรวมได้ถึง 739 ปีเลยทีเดียว (ป๊าด!)

     แต่คงต้องแสดงความเสียใจสำหรับแฟนๆ ที่เคยชื่นชมความมันส์ของสองภาคแรกไว้ ณ ที่นี้ด้วย เพราะภาคนี้เสี่ยดันเกิดอยากให้วัยรุ่นและคนในวงกว้่างสามารถมาดูหนังแฟรนไชส์ชุดนี้มากขึ้น ก็เลยขอลดความรุนแรงจากเรทอาร์ในสองภาคแรกให้เหลือเพียงเรทพีจี-13 ในภาคนี้

     ดังนั้นฉากบู๊ในภาคนี้จึงออกมาดูจืดสนิท ครั้นมาเจอความยาวของหนังที่ลากยาวถึง 126 นาทีซึ่งก็เต็มไปด้วยฉากพูดคุยชวนเบื่อเข้าไปอีก งานนี้คงต้องมีคนหลับหงายเงิบคาโรงหนังกันบ้างล่ะ

     จากหนังบู๊บ้าพลังๆ แมนๆ กวนตีนๆ ที่ดูมันส์ๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากก็เลยกลายสภาพเป็นหนังเหล่าผู้สูงอายุพยายามดิ้นรนเฮือกสุดท้ายก่อนที่จะถูกลืมเลือนกับกาลเวลาซะงั้น

     ส่วนการพยายามเอาใจกลุ่มคนดูวัยรุ่นโดยให้คนพันธุ์บู๊รุ่นใหม่เข้ามาในทีมจนรกนั้นก็น่าจะเป็นตัวทำลายเสน่ห์ของหนังชุดนี้ซะมากกว่า เพราะหมดเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงกับบรรดาฉากออกไปเกณฑ์ลูกทีมทั้งหลาย จนแทบจะละเลยบรรดานักบู๊รุ่นเก่าซึ่งเป็นจุดขายตัวจริงของหนังชุดนี้ไปเสียดื้อๆ

     ขนาดทีมพากย์พันธมิตรที่สามารถทำให้หนังซีเรียสกลายเป็นหนังตลกได้นั้น(อิอิ) ก็ยังไม่ค่อยสามารถทำให้หนังดูสนุกขึ้นมาได้สักเท่าไหร่เลย

     นี่เห็นจะมีภาคสี่ออกมาอีกโดยมี Pierce Brosnan อดีตเจมส์ บอนด์ และ Hulk Hogan อดีตนักมวยปล้ำชื่อก้องมาร่วมแจม ยังไงก็หวังว่าจะออกมามันส์กว่าภาคนี้เน้อเสี่ย




การมาครั้งนี้ของพวกลุงๆ ค่อนข้างน่าเบื่อนะเราว่า 4/10 ครับ






*รีวิวสองภาคแรกภายในบล็อก*
 


Into the Storm (2014): มหันตภัยหมุนติ้วๆ

Into the Storm (2014): มหันตภัยหมุนติ้วๆ

     หนังพายุทอร์นาโดถล่มเรื่องนี้คือญาติสนิทกับ Twister (1996) ซึ่งเคยโด่งดังในยุคหนังซีจีเริ่มเบ่งบาน แต่ว่าในทุกวันนี้คนดูเขาเห็นอะไรแบบนี้จนชาชินเสียแล้วน่ะสิ ดังนั้นหนังเลยอาจจะไม่ค่อยสร้างความฮือฮาได้เท่าสมัยโน้นแล้วก็ได้นะ

     ผกก.Steven Quale ศิษย์ก้นกุฏิของเสี่ย James Cameron รู้ดีถึงข้อนี้เขาเลยพยายามมองหาไอเดียอื่นมาทดแทนไม่ว่าจะการทำเป็นหนังกึ่งๆ เรื่องจริงผ่านจอ และหาทางให้ตัวละครหลักๆ มีอันต้องไปหนีตายจากโคตรพายุทอร์นาโดได้อย่างพอเหมาะพอควรพอฟังขึ้นได้อยู่ แม้ว่าอีกหลายๆ คนจะเข้าข่าย 'รนหาที่' ในแบบที่ Twister โดนหมั่นไส้มาแล้วก็ตาม

     ถึงหนังจะเดิมๆ ไม่มีอะไรฉีกความคาดหมายแถมหลายฉากที่ยังชวนให้ "อ่ะนะ" และฉากดราม่าทั้งหลายก็ยังกล่อมคนดูให้เคลิ้มตามไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยนัก แต่พอถึงฉากพายุถล่มราบก็ยังทำให้คนดูลุ้นระทึกได้อยู่ การที่หนังไม่พยายามแถลากยาวก็เลยพอจะมอบความบันเทิงอย่างพอดีคำให้ได้อยู่บ้าง

     อย่างน้อยหนังก็สามารถย้ำเตือนให้ตระหนักอีกครั้งว่าการที่สภาพอากาศโลกผันผวนมากขึ้นทุกขณะจิตเช่นนี้ ก็เพราะด้วยน้ำมือของมนุษย์เราเอง ครั้นพอโดนธรรมชาติถล่มซะเละก็ยังไม่สลดสักนิด แต่ยังดื้อด้านพยายามคิดหาทางเอาชนะธรรมชาติให้จงได้ แหม่ มนุษย์เนี่ยมันมนุษย์จริงๆ เนอะ อิอิ



หนังดูได้เรื่อยๆ ไม่มากแต่เกือบน้อย 6/10 ครับ






*รีวิวหนังของ ผกก.Steven Quale เรื่องอื่นๆ ภายในบล็อก*

วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Guardians of the Galaxy (2014): เกรียนกรุ๊ปพิทักษ์กาแล็กซี่

Guardians of the Galaxy (2014): เกรียนกรุ๊ปพิทักษ์กาแล็กซี่

     ผลงานล่าสุดจาก Marvel Studios เรื่องนี้มาแปลกกว่าเพื่อนตรงที่นำเอาการ์ตูนที่น้อยคนนักที่จะรู้จักถ้าเทียบกับหนังฮีโร่ที่ผ่านๆ มาของมาร์เวลมาเป็นผลงานนำร่องหนังฮีโร่ช่วงที่สองของพวกเขา

     ซึ่งจะว่าไปก็นับว่าเป็นความกล้าเสี่ยงเหมือนคราวที่ Iron Man ภาคแรกออกฉายเมื่อปี ค.ศ.2008 ก็ว่าได้ แต่ถ้ามองอีกมุมว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่ ไม่ใช่ภาคต่อของฮีโร่รายเดิมๆ ก็นับว่าน่าสนใจมิใช่น้อย

     และแน่นอนที่ตัวหนังโดยฝีมือของ ผกก.James Gunn เองก็ออกมามีเสน่ห์และดูสนุกไม่เป็นรองใครเลยทีเดียว แถมยังขยายจักรวาลของหนังฮีโร่มาร์เวลที่แสนกว้างใหญ่ไพศาลให้แก่คนดูรับแซ่บได้แบบเนียนๆ อีกต่างหาก

     หนังมาพร้อมอารมณ์ขันที่ผ่อนคลายไม่ซีเรียสอะไรตามสไตล์หนังฮีโร่มาร์เวล แต่ก็ไม่ถึงกับตลกคาเฟ่ ดูเพลินๆ ดีแท้ ไม่น่าเบื่อแม้หนังจะจัดเต็มสองชั่วโมงเลยก็ตามที

     อีกอย่างที่ทำให้หนังดูสนุกขึ้นเพราะมีรายละเอียดยิบย่อยให้แฟนๆ ได้สังเกตสังกา ไม่ว่าจะแฟนพันธุ์แท้มาร์เวล หรือแม้แต่แฟนพันธุ์ทางก็ตามที่น่าจะดูกันสนุกได้มากกว่าหนึ่งรอบ

     หากการรวมตัวของทีม The Avengers มีแต่ฮีโร่เด็ดๆ ทั้งนั้น การรวมตัวของฮีโร่ทีมนี้มีแต่ตัวเกรียนๆ ขี้แพ้ก็ว่าได้ ซึ่งคนที่โดดเด่นที่สุดคงไม่พ้นหนุ่ม Chris Pratt ที่คงจะได้ใจคนดูไปเต็มๆ และคงจะโด่งดังจากหนังเรื่องนี้นะ (Groot ของ Vin Diesel ก็น่ารักใช่ย่อย)

     ที่น่าชื่นชมอีกอย่างคือ ผกก.Gunn ที่โตมากับสายหนังคัลต์ของ Troma แอบหนีบ ผกก.Lloyd Kaufman ผู้ก่อตั้ง Troma Film ให้มาโผล่แว๊บๆ สไตล์เดียวกับปู่ Stan Lee อีกด้วย (ใครสังเกตเห็นแกบ้างมั้ย อิอิ?)



สนุกดูเพลินไม่เสียฟอร์มหนังนำร่องช่วงที่สองของมาร์เวลเลยครับ 8/10 


     ปล.การที่มี Howard the Duck (เวอร์ชั่นที่ผอมลง)โผล่มาให้เห็นแว๊บๆ นั้น นับว่ามาแปลกตรงที่นำเอาตัวละครของ Lucas Film (ที่เป็นของดิสนี่ย์เช่นกัน) มาแจมในหนังมาร์เวลแบบนี้ หรือว่าทางดิสนี่ย์คิดจะรีบู้ท Howard the Duck ใหม่หนอ อืมมม?






*ช่วงเพลงในหนัง*
วง 10cc
ถึงจะเป็นหนังฮีโร่สุดไซไฟแต่ตัวหนังกลับใช้แต่เพลงป็อปร็อคสุดคลาสสิคจากยุค 60-80 ซึ่งเชื่อว่าหลายเพลงนั้นต้องเคยผ่านหูคอเพลงมาแล้วแน่ หนึ่งในนั้นก็คือเพลง I'm Not In Love ของวง 10cc จากอังกฤษ ซึ่งแม้ตัวเพลงจะเก่าเกือบ 40 ขวบแล้ว แต่ก็ยังเพราะได้ใจอยู่เลย



*รีวิวหนังเรื่องอื่นๆ ของ ผกก.James Gunn ภายในบล็อก*