หนุ่ม Elijah Wood เป็นอดีตดาราเด็กในจำนวนไม่กี่คนที่เติบโตในสายอาชีพนี้อย่างมั่นคงไม่เสียคนจนอนาคตนักแสดงดับวูบไปเสียก่อน ถึงทุกวันนี้เขาจะไม่ได้ดังตูมตามแต่ก็มีผลงานดีๆ ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนบทบาทสร้างชื่อที่สุดของเขาคงไม่พ้นบท "โฟรโด้" จากไตรภาค The Lord of the Rings นั่นเอง
มาคราวนี้เขาขอพลิกบทบาทครั้งใหญ่ มาเล่นหนังรีเมคแนวเชือดสาวๆ จากต้นฉบับชื่อเดียวกันที่ออกฉายเมื่อปี 1980 โดยรับบทเป็นไอ้หนุ่มจิตคลั่งที่คอยดอดไปฆ่าถลกหนังหัวของบรรดาสาวๆ สวยๆ ในแอลเอ เพื่อนำมาสนองความป่วยจิตของตนชนิดไม่เกรงใจตำหนวดเอาเสียเลย (อันที่จริงเราเคยเห็นนาย Wood เคยรับบทเป็นหนุ่มโหดมาแล้วครั้งหนึ่งใน Sin City (2005) แต่นั่นก็แค่โผล่มาแป๊บเดียวแถมยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ)
หนังได้ ผกก.เลือดฝรั่งเศส Franck Khalfoun ที่เคยมีผลงานอย่าง P2 (2007) มาดูแลความโหด ทั้งยังได้ Alexandre Aja คนทำหนังจากฝรั่งเศสที่คอหนังโหดรู้จักซูฮกกันดีมาร่วมเขียนบทให้อีกด้วย
แถมผู้สร้างยังทำเก๋ เล่าเรื่องผ่านสายตาของฆาตกร (Point of View) เกือบตลอดเรื่องโดยเราจะได้ยินแต่เสียง เห็นแต่มือและการกระทำของนาย Wood จะได้เห็นหน้าค่าตาของเขาก็จากภาพสะท้อนบนกระจก ซึ่งให้ความรู้สึกที่น่าสนใจคือแทนที่คนดูจะเป็นฝ่ายเฝ้าดูการกระทำของตัวร้ายอย่างหนังทั่วๆ ไป เรื่องนี้ทำให้คนดูคือตัวร้ายไปซะเลย!
หนังจัดเต็มด้านความโหด ถึงเลือดถึงเนื้อตามสายพันธุ์หนังเชือดฝรั่งเศสยุคใหม่ (อย่างฉากถลกหนังหัวจะๆ ไม่มีกระมิดกระเมี้ยน) ที่คอหนังโหดน่าจะถูกใจซี้ดซ้าดกันแน่ มาเจอไอเดีย PoV ของฆาตกรเข้าไปอีกก็เลยยิ่งดูฮาร์ดคอร์กันไปใหญ่ แม้ว่าหนังจะมีอะไรที่มันไม่สมเหตุสมผลให้ได้จับผิดอยู่บ้างก็ตามที (อย่างเช่นการที่หนังแทบไม่ได้ให้ความสำคัญของตำรวจ หรือที่เรียกว่าไม่เห็นหัวตำรวจเลย ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงตัวฆาตกรที่ก่อคดีแบบอุกอาจขนาดนี้น่าจะถูกตามจับได้ไม่ยากตั้งแต่ครั้งแรกๆ แล้ว)
ไม่รู้สินะ เราดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่ามันคือหนัง Porn สายโหดดีๆ นี่เอง ลำพังแค่การเฝ้าดูเจ้าฆาตกรไล่ฆ่าคน คนแล้วคนเล่ามันก็มากพอแล้ว แต่นี่มันกำลังสนองตัณหาที่มากไปกว่านั้นอีกขั้น คือจะซี้ดในอารมณ์สักแค่ไหนถ้าหนังทำให้เรารู้สึกราวกับว่าได้เป็นคนเชือดเองซะเลยล่ะ
หนังโหดสัดถูกใจคอซาดิสม์ไอเดียนำเสนอที่น่าสนใจ แต่ถามจริง มันให้คุณค่าอะไรแก่คนดูบ้าง? ให้ไป 5/10 ครับ
*ช่วงเพลงในหนัง*
สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างในหนัง Maniac คือซาวน์แทร็คแนวอิเลคโทรนิคยุค 80 (แนวๆ เดียวกับหนัง Drive) ที่น่าฟังและสร้างความพิเศษให้แก่หนังดีออก โดยเฉพาะเพลงในช่วงเอนด์ เครดิตเพลงนี้ที่เพราะได้ใจเราไปเต็มๆ เลยจ้า