
ณ ชม.นี้ถ้าจะนึกถึงนักแสดงหนุ่มมาแรงแซงทางโค้ง คงต้องนึกถึงพ่อหนุ่ม Tom Hardy (34 ขวบ) เป็นอันดับต้นๆ หลังจากที่เขาโผล่มาคว้าบทเด่นในหนังฮิต Inception (2010) และกำลังได้สวมบทตัวโกงในหนังที่ทุกคนกำลังรอคอยอย่าง The Dark Knight Rises (2012) ส่วนนี่คือหนังดราม่าหมัดๆ มวยๆ ที่ต้องเสริมสร้างสถานะนักแสดงหนุ่มมาแรงแห่งยุคของเขาให้มั่นคงยิ่งๆ ขึ้นไปอีกแน่เชียว


มองเหมือนจะแดกกันเลย
หนังเสนอเรื่องราวของสองพี่น้องหุ่นล่ำที่ครอบครัวแตกแยกตั้งแต่วัยรุ่น ต่างคนต่างอยู่ในเส้นทางชีวิตที่แตกต่าง แต่แล้วโชคชะตาได้ชักพาให้ทั้งคู่ต้องมาเจอะกันอีกครั้งในฐานะคู่ต่อสู้บนสังเวียน MMA (Mixed Martial Arts หรือ ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน) ทัวร์นาเม้นท์สำคัญชื่อ Sparta ที่มีเงินรางวัลล่อใจถึงห้าล้านเหรียญ ซึ่งการที่สองพี่น้องต้องมาตะบันหน้ากันครั้งนี้นั้นผลจะออกมาเช่นไร ก็โปรดติดตามได้ตามอัธยาศัยเลยจ้า


ลุง Nick Nolte เล่นดีจนน่าเชียร์ให้ไปถึงออสก้าร์ยิ่งนัก
ผกก.Gavin O'Connor (Pride and Glory [2008]) ซึ่งควบหน้าที่เขียนบทร่วม ทำหนังออกมาได้ดีมากๆ เพราะดูจะเด่นไปหมดไม่ว่าจะฉากขึ้นชกที่แสนตื่นเต้นชวนลุ้น หรือฉากดราม่าที่อาจทำให้หลายคนน้ำตารินได้เลยทีเดียว เรียกได้ว่าหนังต้องได้ใจคนดูตลอดทั้งเรื่องแน่ แม้ว่าเรื่องราวแทบจะไม่เกินการคาดเดาและคนดูแทบจะรู้เรื่องราวโดยรวมของหนังหมดแล้วจากเทรลเล่อร์ก็ตามทีหนังเด่นทั้งฉากแอ็คชั่นและฉากดราม่า
สองนักแสดงหลักทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็น Tom Hardy กับบทหนุ่มพูดน้อยต่อยหนักที่ดูเหมือนจะเกลียดชังทุกคนบนโลกใบนี้ แต่จริงๆ แล้วจิตใจดี หรือ Joel Edgerton ผู้พี่ที่เป็นครูมัธยมสอนวิชาฟิสิกส์ แต่เพื่อลูกเพื่อเมียแล้วต้องทำให้เขาต้องหวนคืนสู่สังเวียนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแม้สองคนนี้จะต่างกันราวฟ้ากับเหวและต้องมาเป็นคู่ปรับบนเวทีกัน แต่หนังก็สามารถทำให้คนดูรักและคอยเอาใจช่วยคนทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี ส่วนอีกคนที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือลุง Nick Nolte ที่รับบทพ่อที่คนทั้งคู่เกลียดชัง ได้อย่างน่าเห็นใจ จนบทนี้น่าจะทำให้แกไปไกลถึงเวทีออสก้าร์เลยก็เป็นได้

สองพี่น้องสองสไตล์
อันที่จริงแล้วนี่คือหนังดราม่าปัญหาครอบครัวที่มีการแข่งๆ หมัดๆ มวยๆ มาเกี่ยวข้อง ถ้าหากว่าปีที่แล้วท่านเคยประทับใจกับ The Fighter มาเช่นไร ก็คงจะประทับใจกับเรื่องนี้ได้ไม่แพ้กัน ซึ่งจะว่าไปแล้วหนังทั้งสองก็เปรียบเสมือนเป็นพี่น้องกันเลยก็ว่าได้ (เอาแค่ชื่อเรื่องความหมายก็ไปกันได้แล้ว) เป็นหนังดีน่าดูอีกเรื่องของปีนี้ที่ไม่ควรพลาดเลยเชียว ขอบอก
- + เป็น The Fighter ของปีนี้ (แต่แมนกว่า) เด่นทั้งฉากแอ็คชั่นและฉากดราม่า หนังดีจริงๆ
- - พล็อตไม่เกินคาดเดา ดูเทรลเล่อร์ก็แทบจะบอกทุกอย่างของหนังอยู่แล้ว
*ช่วงเพลงในหนัง*
The National
เพลงในหนังส่วนใหญ่ถูกใส่มาก็เพื่อส่งเสริมอารมณ์ของฉากนั้นๆ (หรือถูกใส่มาเพื่อกะขายเพลงอย่างเดียว) แต่สำหรับหนังเรื่องนี้เป็นอะไรที่ตรงกันข้ามเพราะ ผกก.O'Connor เขียนบทขึ้นมาในขณะกำลังฟังเพลง 'About Today' ของ The National วงอินดี้จากนิวยอร์ค ซึ่งนั่นก็คือตอนฉากไคลแม็กซ์ที่เราจะได้ยินเพลงนี้กันด้วย ดังนั้นทั้งเพลงทั้งฉากจึงสร้างอารมณ์เป็นเนื้อเดียวกันสุดๆ ที่อาจจะทำให้หลายคนเสียน้ำตาในฉากนั้นเลยล่ะ เยี่ยมจริงๆ เราจึงมีมาให้ดูให้ฟังกันครั่บ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น