มาคราวนี้พี่ Sheen เขาสวมบทเป็นผจก.ทีมฟุตบอลในตำนานนะจะบอกให้
คุณพี่ Michael Sheen (Underworld: Rise of the Lycans [2009]) ที่ถนัดสวมบทบาทคนที่มีตัวตนอยู่จริง มารับบท Clough สมัยยังหนุ่มๆ ได้อย่างเข้าท่าแบบที่สามารถหวังได้จากพี่เขาอยู่แล้ว ในขณะที่บทสมทบอื่นๆ ก็ล้วนทำหน้าที่ได้อย่างดีโดยนักแสดงอังกฤษที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่ แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นหนังดราม่ากีฬา แต่หนังก็เน้นไปที่ตัวของ Clough มากกว่าที่จะเน้นไปที่เกมการแข่งขันฟุตบอล ทั้งนี้ก็ต้องชื่นชมทีมสร้างที่สามารถพาคนดูย้อนยุคกลับไปในช่วงยุค '70 ได้อย่างน่าเชื่อถืออีกด้วย และที่ลืมไม่ได้เลยคือ ผกก.วัย 37 ขวบอย่าง Tom Hooper ที่ถึงแม้จะทำหนังโรงเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก (หลังจากทำหนังทีวีมาตลอด) แต่เขาก็ทำออกมาได้อย่างมั่นใจ มีสไตล์ และถึงคุณภาพ น่าสนับสนุนจริงๆ นะคนเนี้ยผจก.ทีมที่ดีควรเกรี้ยวกราดในสนามและยิ้มแย้มนอกสนาม
สิ่งหนึ่งที่หนังพยายามย้ำให้เห็นอยู่ตลอดคือ ความทะเยอทะยานของ Clough ที่ถึงแม้เขาจะเป็น ผจก.ทีมฟุตบอลที่ฉลาดล้ำ และเก่งมาก แต่เขาก็ปล่อยให้ความทะเยอทะยานและความเคียดแค้นส่วนตัวของเขา มาเป็นแรงผลักดันในหน้าที่การงาน จริงอยู่ที่ระยะเริ่มแรกมันอาจจะส่งผลบวกให้เห็น แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เกือบจะทำให้เขาสูญสิ้นทุกอย่างไป ไม่ว่าหน้าที่การงาน หรือแม้แต่เพื่อนซี้ที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายปี บางคนเคยบอกว่า ฟุตบอลลูกกลมๆ มันไม่เข้าใครออกใคร เฉกเช่นเดียวกับ ความทะเยอทะยานและความเคียดแค้น มันก็ไม่เคยเข้าใครออกใครเหมือนกันนะจ้ะ- น่าดูเพราะ: เป็นหนังดราม่ากีฬาฟุตบอลที่เข้าท่า แฟนฟุตบอลตัวจริงน่าจะชอบกัน
- ไม่น่าดูเพราะ: ไม่เน้นเกมการเตะบอล ดูเอามันไม่ได้ และคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องบอลอาจดูแล้วเซ็ง
*ช่วงตัวเป็นๆ จากหนัง*

โฉมหน้า Brian Clough ตัวจริง
Brian Howard Clough (1935-2004) เป็นนักฟุตบอลและผจก.ทีมฟุตบอล เขาเคยคุมทีมสโมสร Derby County จนประสบความสำเร็จและเคยพา Nottingham Forest ซิวแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ แต่ที่ยังฉาวได้อีกคือการที่เขาเข้าไปคุมทีม Leeds United ได้เพียงแค่ 44 วันแล้วก็ถูกเด้งออกจากตำแหน่งเพราะไม่ได้การยอมรับจากเหล่าผู้เล่นในทีม จนเล่นแพ้กระจาย
ด้วยบุคลิกที่มีเสน่ห์ แต่ชอบพูดจาขวานผ่าซากและชอบโต้เถียง ทว่าก็มีฝีมือการคุมทีมที่ยอดเยี่ยมทำให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็น ผจก.ทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดของอังกฤษ และเป็น ผจก.ทีมที่ดีที่สุดที่ไม่ได้คุมทีมชาติ(ได้ไงเนี่ย?)
เขาเป็น ผจก.ทีมฟุตบอลอยู่จนเกษียณตัวเองในปี 1993 และเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในกระเพาะ ในปี 2004 ขณะอายุได้ 69 ขวบ
ด้วยบุคลิกที่มีเสน่ห์ แต่ชอบพูดจาขวานผ่าซากและชอบโต้เถียง ทว่าก็มีฝีมือการคุมทีมที่ยอดเยี่ยมทำให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็น ผจก.ทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดของอังกฤษ และเป็น ผจก.ทีมที่ดีที่สุดที่ไม่ได้คุมทีมชาติ(ได้ไงเนี่ย?)
เขาเป็น ผจก.ทีมฟุตบอลอยู่จนเกษียณตัวเองในปี 1993 และเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งในกระเพาะ ในปี 2004 ขณะอายุได้ 69 ขวบ
*ข้อมูล wikipedia.org*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น