ภาคนี้โจรยังเกลื่อนเมืองอยู่เช่นเดิม
หนังดำเนินเรื่องราวทิ้งห่างจากภาคแรก 13 ปี เมื่อ พ.ต.ท.Roberto พระเอกจากภาคแรกต้องถูกโยกไปทำงานใส่สูทนั่งโต๊ะเนื่องจากเจอะปัญหาด้านการเมืองเล่นงาน เพราะทีม BOPE (หน่วยพิเศษของตำรวจเมือง ริโอ เดอ จาเนโร) ของเขาถูกกล่าวหาว่าใช้กำลังรุนแรงเกินเหตุ ซึ่งขณะนั้นเมือง ริโอฯ ก็ยังเต็มไปด้วยปัญหาอาชญากรรมอยู่เช่นเดิม แถมจะหนักข้อกว่าเก่าเมื่อตำหนวดเลวบางกลุ่มได้รวมหัวกับนักการเมืองชั่วบางคนตั้งตนเป็นมาเฟีย ในขณะเดียวกัน Roberto ก็ต้องเผชิญกับปัญหาครอบครัว เมื่อลูกชายวัยรุ่นของเขา ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยปลื้มกับคุณพ่อคนนี้สักเท่าไหร่อีกด้วย
หน่วย BOPE กำลังตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติหน้าที่
ผกก.José Padilha เจ้าเก่ายังคงพาทีมสร้างชุดเดิมกลับมาชนิดครบเซ็ท โดยหนังภาคนี้จะขอลดฉากแอ็คชั่นลง(แต่ก็ยังแรงได้อยู่) แล้วหันไปเสนอเรื่องราวนอกหน่วย BOPE บ้าง ทั้งยังได้เพิ่มเรื่องราวปัญหาชีวิตครอบครัวของพระเอกมากขึ้นด้วย ทว่าก็ยังออกมาเป็นหนังภาคต่อที่เข้มข้นได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าภาคแรกเลย (แถมออกจะเหนือกว่าด้วยซ้ำในด้านเนื้อหา) และที่จะขาดไม่ได้เลยคือการตีแผ่ปัญหาอาชญากรรมในเมือง ริโอฯ ซึ่งคราวนี้หนังขอนำเสนอศัตรูรายใหม่บ้าง ซึ่งนั่นก็คือเหล่าตำหนวดและนักการเมืองชั่วๆ นั่นเอง

ตำรวจบราซิลเขาหน้าตาเป็นแบบนี้
สำหรับเรื่องที่หนังภาคแรกถูกหาว่าโปรการใช้ความรุนแรงต่อปัญหาอาชญากรรมมากเกินไปหรือเปล่านั้น ในภาคนี้ก็แก้ลำได้สำเร็จโดยการนำจุดนี้เข้ามาเป็นจุดขัดแย้งหลักในหนังด้วย หนังเสนอภาพของเมือง ริโอฯ ที่เต็มไปด้วยอาชญากรรมสุดจะอันตรายจนไม่น่าอยู่เอาซะเลย(ของจริงจะขนาดนี้หรือเปล่าหว่า?) เห็นเรื่องราวของตำหนวดและนักการเมืองชั่วแบบนี้แล้วก็นึกถึงบ้านเราจัง เพราะมันช่างคล้ายคลึงกันเด๊ะ แต่คงจะไม่หนักเท่าในหนังหรอกมั้ง (เอ...หรือจะพอๆ กันแฮะ อิอิ) ยังไงซะคนดีๆ ก็ยังมีอยู่เยอะ ซึ่งก็หวังว่าในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว ความดีจะเอาชนะความชั่วได้ในท้ายที่สุดอย่างในหนังบ้างเน้อ ^^


คราวนี้พระเอกเราหันมาใส่สูทผูกไท้ด์บ้าง
- จุดเด่น: เป็นหนังดราม่าอาชญากรรมภาคต่อจากบราซิลที่คุณภาพแจ่มแจ๋วไม่แพ้ภาคแรกเลย หนังตีแผ่ปัญหาอาชญากรรมได้อย่างถึงกึ๋นและเป็นหนังทำเงินสูงสุดตลอดการของบ้านเขาด้วยนะ ขอบอก
- จุดด้อย: แอ็คชั่นน้อยลงกว่าภาคแรก ดูเอาบู๊คงไม่ได้ดังใจเท่าไหร่นัก
ใคตรชอบวลี "ถ้าพ่อค้ายาจน ตำรวจก็จะจนไปด้วย" มากเลย
ตอบลบ