วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Midnight in Paris (2011): เจาะเวลาไปปิ๊งรัก...ที่ปารีส


Midnight in Paris (2011) :
ในบรรดา ผกก.วัยดึกที่ยังคงเตะปี๊บดังขยันขันเข็นผลงานหนังออกมาถี่ยิบชนิดไม่ต้องพึ่งไวอากร้า (หรือเปล่า?) นอกจากจะมีปู่ Clint Eastwood (81 ขวบ) ขวัญใจคอหนังแล้ว ก็ยังมีป๋า Woody Allen (ย่าง 76 ขวบ) อีกราย ซึ่งแกก็ถือนโยบายทำหนังเรื่องละปีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว และนี่ก็คือผลงานลำดับที่ 41 ของแกเข้าไปแล้วนะจ้ะ ขอบอก


พ่อหนุ่ม Owen Wilson มากับหนังที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของเขา
Gil (Owen Wilson) นักเขียนหนุ่มจากฮอลลีวู้ดและ Inez (Rachel McAdams) คู่หมั้นสาวแสนสวย เดินทางมาพักผ่อนพร้อมกับพ่อแม่ของฝ่ายหญิงที่ปารีส ซึ่งในคืนหนึ่ง Gil ที่กะจะเดินเล่นชมวิวปารีสยามค่ำคืนให้ชื่นใจหายเซ็งซะหน่อย แต่ก็ดันหลงทางกลับโรงแรมไม่ถูก จนจับพลัดจับผลูมีโอกาสได้เจาะเวลาย้อนอดีตไปสู่กรุงปารีสช่วงยุคปี 1920 ซะงั้น


สาวฝรั่งเศสกับสาวมะกันใครจะเจ๋งกว่ากันหนอ?
ซึ่งเขาก็ถึงกับเอ๋อกินเมื่อได้พบกับเหล่านักเขียน ศิลปิน นักดนตรี ในตำนานอย่าง Cole Porter, Ernest Hemingway, Salvador Dalí ไปยัน Pablo Picasso เลยทีเดียว และยิ่งไปกว่านั้นก็คือการได้พบปะปิ๊งปั๊งกับสาวงามนาม Adriana (Marion Cotillard) ซึ่งนั่นล่ะที่ทำให้หัวใจของเขาต้องว้าวุ่นเวิ่นเว้อยิ่งกว่าการได้เจอเหล่านักเขียนในดวงใจของเขาเสียอีก


สาวหน้าแฉล้มเยอะจริงเรื่องนี้
หลังจากพาไปเที่ยวอังกฤษกับสเปนมาแล้วในผลงานเรื่องก่อนๆ นี่ก็คือผลงานที่เปรียบเสมือนจดหมายรักของป๋าที่มีแด่กรุงปารีส เพราะหนังเสนอภาพมหานครแห่งนี้ในด้านโรแมนติก งดงาม สงบ ร่มเย็น เป็นเมืองแห่งศิลปะ และสายฝนโรยริน (ในแง่โรแมนติก ไม่ได้มาในแง่น้ำท่วมอย่างบ้านเรานะ) ชนิดที่ว่าดูหนังเสร็จแล้วเป็นใครก็แทบอยากจะเหมารถสองแถวไปเหยียบที่นั่นบ้างกันเลยทีเดียว


เฮีย Adrien Brody โผล่มาเรียกรอยยิ้มในบท Salvador Dalí
ป๋า Allen ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังอีกแล้วครั่บ แถมขาจรมาดูก็ยังชอบได้อีก เพราะหนังแสนจะโรแมนติก อบอุ่น มีเสน่ห์ มีอารมณ์ขัน และเอิ่ม...ปัญญาชน ตามแบบฉบับของหนังแกน่ะนะ ซึ่งใครที่ชื่นชอบเกี่ยวกับแวดวงศิลปะ วรรณกรรมของฝรั่ง ก็คงจะดูหนังเรื่องนี้ได้รื่นรมย์ขึ้นไปอีกหลายขั้นบันได ยิ่งมีนักแสดงคุ้นหน้ามากหน้าหลายตาผลัดกันโผล่มาสร้างสีสันด้วยแล้ว ยิ่งทำให้หนังทรงเสน่ห์ชวนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เข้าไปอีก

ป๋าขณะกำลังกำกับนักแสดงในเรื่อง
และเช่นเดียวกับหนังป๋าเขาที่จะดูเอาเพลินก็ได้เอาแง่คิดก็มีเยอะ โดยในที่นี้คือการถวิลหาอดีต ซึ่งป๋าก็ตั้งข้อสังเกตในหนังได้ตลกดีแต่ก็ชวนคิด อย่างเช่นการที่พระเอกเราที่คิดว่ายุคปี 1920 เป็นยุคทองแห่งศิลปะแล้ว ในขณะเดียวกันที่คนในยุคนั้นกลับเห็นว่ายุคศตวรรษที่ 19 นั่นต่างหากยุคทอง แต่พอไปถามคนยุคนั้นอีกทีเขาก็ว่ายุคเรอเนสซองซ์โน่นยุคทอง ซึ่งเหมือนป๋าแกกำลังจะบอกว่ามันไม่มียุคไหนดีกว่ายุคไหนหรอก ดีทุกยุคแหล่ะ ดังนั้นจงพอใจและทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็แล้วกันเน้อพี่น้อง ป๋า Woody Allen เขาฝากบอกมา ^^
  • + หนังดูเพลิน วิวสวย มีเสน่ห์ อารมณ์ขัน แง่คิด นักแสดงก็มากมี แจ่มไปเลยจ้า
  • - คนที่ไม่ค่อยสนใจแวดวงวรรณกรรม ศิลปะของฝรั่งยุคนั้นอาจจะอินกับหนังได้น้อยลงไปบ้าง (แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอยู่ดีเนอะ)





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น