วันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2554

The Kid with a Bike (2011): ปัญหาหนักอกของไอ้หนูน่องเหล็ก




The Kid with a Bike (2011) :
Cyril หนูน้อยนิสัยดื้อรั้นวัย 11 ขวบ โดนพ่อทิ้งให้อยู่สถานสงเคราะห์เด็กมาได้พักใหญ่ แต่แล้วจู่ๆ พ่อที่เปรียบเสมือนทุกสิ่งทุกอย่างของเขาก็ย้ายบ้านหายหัวหนีไปซะดื้อๆ เล่นเอาเขาแทบอยู่ไม่ติดและออกตามหาพ่ออย่างไม่หยุดหย่อน โดยมีเพียงจักรยานคู่ชีพของเขาที่พ่อเคยซื้อให้เป็นสมบัติติดตัวอันล้ำค่าซึ่งเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนความรักของพ่อที่มีต่อเขา


หนังดีจากเบลเยี่ยมมาอีกแล้วจ้า
และต่อมาสวรรค์ก็ชักพาให้เขาได้พบกับ Samantha (Cécile de France จาก Hereafter [2010]) สาวใหญ่ช่างทำผมน้ำใจงามที่รู้สึกถูกชะตาเด็กชายตัวน้อยคนนี้ทันทีที่ได้เจอ และตกลงรับอุปการะให้เขามาพักอยู่ด้วยในทุกช่วงสุดสัปดาห์ พร้อมกับรับปากจะช่วยตามหาพ่อของ Cyril อีกแรง ซึ่งนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของมิตรภาพอันแสนประทับใจของทั้งคู่ ที่ท่านจะต้องจดจำไปอีกนานโขเลยทีเดียวเชียว


หนูน้อยเสื้อแดงคนนี้แสดงดีมากๆ
นี่คือผลงานล่าสุดของสองศรีพี่น้องตระกูล Dardenne (Jean-Pierre และ Luc Dardenne) ผกก.แพ็คคู่ระดับพรีเมี่ยมจากเบลเยี่ยม ที่ทำหนังออกมาทีไรก็มักจะไปได้ดิบได้ดีที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ซะจนกลายเป็นแขกประจำของที่นั่นไปซะแล้ว และหนังเรื่องนี้ก็ถึงกับสามารถคว้ารางวัล Grand Prix ซึ่งก็คือรางวัลที่มีศักดิ์ศรีเป็นอันดับที่สองรองจากรางวัลปาล์มทองคำ (ครองรางวัลร่วมกับหนังตุรกีเรื่อง Once Upon a Time in Anatolia) โดยที่หนังสุดล้ำลึก (และชวนง่วง) ของ Terrence Malick เรื่อง The Tree of Life นั้นคว้ารางวัลปาล์มทองคำไปครองได้นั่นเอง


หนังสะท้อนปัญหาสังคมในแบบที่บ้านเราก็มีแบบนี้ให้เห็น
หนังดราม่าเรื่องราวบ้านๆ เรื่องนี้ดูดีมีเสน่ห์ น่าประทับใจ ดูไม่ยากและชวนติดตามตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งถึงแม้ตัวสอง ผกก.จะบอกว่าอยากทำหนังที่ออกไปทางเทพนิยาย (เห็นได้จากการให้พระเอกเราใส่เสื้อสีแดงตลอดที่ชวนให้นึกถึงแก๊งเสื้อแดง เอ๊ย'หนูน้อยหมวกแดง'ขึ้นมาเชียว) แต่ก็สามารถสะท้อนสังคมและดูจริงจังดีชะมัด ในขณะที่ลีลาการเล่าเรื่องของสอง ผกก.นั้นก็ทำให้หนังดูเหนือกว่าหนังดราม่าทั่วๆ ไปอยู่หลายขุมนัก


จักรยานคือพาหนะหลักของหนังเรื่องนี้
ส่วนสองนักแสดงนำอย่างคุณ Cécile และหนูน้อย Thomas Doret ก็ทำหน้าที่ได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะคนหลังที่เพิ่งมาเล่นหนังเป็นเรื่องแรก แต่ก็สามารถรับบทเป็นเด็กมีปัญหาแต่มีความมุ่งมั่น (ถึงขั้นดื้อรั้น) ได้แจ่มมากๆ ชนิดที่ทั้งน่าตบเกรียนปนน่าสงสารแบบทูอินวันเลยเชียวล่ะ และการที่นี่เป็นหนังเรื่องแรกของสอง ผกก.ที่เริ่มหันมาใช้ดนตรีประกอบก็ทำให้ส่งเสริมอารมณ์ดราม่าให้กับตัวหนังได้ขึ้นมาแยะเลยทีเดียว


หน้าตาของสองศรีพี่น้อง Dardenne
เด็กที่ประสบปัญหาแบบเดียวกับ Cyril นั้นก็มีมากมายในสังคมทุกวันนี้ ที่คนหนุ่มสาวมีลูกในขณะที่ยังไม่พร้อม แล้วสุดท้ายก็ต้องทอดทิ้งลูกไป ทำให้เด็กนั้นขาดความรักและเริ่มทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา ซึ่งหากว่าเจอผู้ใหญ่ดีๆ อุปถัมภ์ค้ำชูและคอยชี้นำทาง มอบความรักให้แบบในหนังเรื่องนี้ก็ดีไป แต่ในความเป็นจริงแล้วจะมีสักกี่คนที่จะมีโอกาสได้เจอผู้ใหญ่แบบนั้น ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งในปัญหาหนักอกบนโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ ที่เราต้องประสบกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
  • + เป็นหนังดราม่าจากเบลเยี่ยม (แต่พูดฝรั่งเศส) ที่ดูดีมีคุณภาพ นักแสดงทำหน้าที่แจ่ม สะท้อนปัญหาสังคม ดูประทับใจได้อีกต่างหาก
  • - เรื่องราวบ้านๆ พื้นๆ และไม่ใช่หนังฮอลลีวู้ดแบบนี้ จะมีสักกี่คนในวงกว้างที่อยากดู และได้ดู



*รีวิวหนังจากเบลเยี่ยม และหนังที่เกี่ยวข้องเรื่องอื่นๆ ภายในบล็อก*

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น