วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2553

The Man from Nowhere (2010): พี่วอนบิน มาช่วยหนูที


The Man from Nowhere (2010) :
หลังจากที่ต้องไปเป็นทหารรับใช้ชาติ(เกาหลีใต้)ซะหลายปี ในที่สุดพ่อหนุ่มวอนบิน(ที่ไม่บินว่อน) ก็หวนคืนสู่จอเงินอีกครั้ง โดยประเดิมหนังเรื่องแรกในรอบห้าปีด้วยผลงานคุณภาพอย่าง Mother ไปเมื่อปีที่แล้ว และนี่คือผลงานล่าสุดของเขา ที่ก็ฮิตระเบิดเถิดเทิงในเกาหลีจนสามารถครองตำแหน่งหนังทำเงินสูงสุดประจำปีนี้(42 ล้านวอน) แถมยังกวาดรางวี่รางวัลบนเวทีต่างๆ ไปนอนกอดอีกเพียบเรียบร้อยหอยเสียบโรงเรียนวอนบิน เลยจ้า


ไม่ต้องกลัวนะหนู พี่วอนบิน มาแว้ว
ในเรื่องนี้พี่เขารับบท ชาแทซิก(ถ้าสะกดผิดก็ขออภัยเน้อ) หนุ่มเจ้าของโรงจำนำเล็กๆ แสนซอมซ่อ ที่ขอใช้ชีวิตอยู่เงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร จะยกเว้นก็แต่เพียงเด็กน้อยข้างๆ บ้านอย่าง โซมี (หนูน้อยคิมแซรอน จาก A Brand New Life [2009]) ที่ค่อนข้างจะสนิทสนมกันกับเขามากกว่าใครบนผืนปฐพีเกาหลีแล้ว ซึ่งต่อมางานก็เข้าเมื่อคุณแม่ขี้ยาของหนูน้อยดันไปแฮ้บผงขาวของแก๊งมาเฟียจอมโฉดมา ส่งผลให้สองแม่ลูกโดนอุ้มซวยกันไปตามระเบียบ ร้อนถึงพระเอกเราต้องสำแดงความเก่งเทพที่เก็บงำไว้เสียนานออกมา เพื่อตามหาและช่วยหนูน้อยเสื้อแดงของเรากลับมาให้จงได้ ชนิดที่ว่างานนี้คงได้บู๊แหลกกิมจิกระจายกันเลยทีเดียวล่ะพี่น้องเอ๋ย

ว่าแล้วก็ต้องมีฉากโชว์หุ่นล่ำๆ เอาใจสาวแท้สาวเทียมซะหน่อย
ไม่แปลกใจเลยที่หนังของ ผกก.จองบอมลี เรื่องนี้จะฮิตเถิดเทิงซะ ซึ่งก็คงเป็นเพราะหนังเหมือนจะได้รับอิทธิพลมาจาก Man on Fire, Taken, หรือแม้แต่หนัง Jason Bourne อยู่ไม่ใช่น้อย ถึงกระนั้นก็ไม่ได้เรียกว่าเลียนแบบทั้งดุ้น แต่เป็นการประยุกต์ให้ออกมาเป็นแนวทางของตนเองซะมากกว่า ซึ่งก็ทำได้ดีทีเดียว หนังทั้งดูสนุก คิวบู๊ก็เด็ดขาด ถึงเลือดถึงเนื้อ มันส์ไม่ใช่เล่น(แถมยังประทับใจได้อยู่) เอาแค่ซีนหนึ่งที่พระเอกโดดหน้าต่างจากตึกลงไปที่ถนนโดยมีกล้องโดดตามจ่อก้นไปแบบติดๆ ก็แจ่มเกินอภัยแล้วครับพี่น้อง


รูปซ้ายคือนักแสดงไทยที่รับบทเป็นคู่ปรับของพระเอก
ที่สำคัญอีกอย่างคือนักแสดงนำทั้งสองคนของเรา ซึ่งก็มีเสน่ห์ดึงดูดใจคนดูได้เป็นอย่างดี คุณพี่วอนบินเราก็มาพร้อมกับหุ่นฟิตเปรี๊ยะถูกใจสาวแท้สาวเทียม และเล่นคิวบู๊ชวนเจ็บตัวด้วยตนเองได้อย่างทะมัดทะแมงปนเท่แบบสุดๆ แม้บทของเขาจะต้องคอยเก๊กทำหน้านิ่งไม่หือไม่อือสักเท่าไหร่อยู่ตลอด แต่พี่เขาก็สามารถสื่ออารมณ์ออกมาทางสายตาได้ไม่เลวเลยทีเดียว ในขณะที่หนูน้อยคิมแซรอนเราก็ดูน่ารักน่าสงสารได้ใจคนดู ถึงบทบาทออกจะน้อยไปบ้าง แต่ยังไงเสียก็ยังถือว่าการมีนักแสดงนำที่ได้ใจคนดูแบบนี้ก็ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่งแล้วล่ะเนอะ


จะผมยาวหรือผมสั้นก็ยังเท่ได้อยู่
ที่เด็ดอีกอย่างคือหนังได้นักแสดงชาวไทยเราอย่างคุณ ธนายง ว่องตระกูล ไปรับบทตัวร้ายที่มีฝีมือพอฟัดพอเหวี่ยงกับพระเอกเรา ซึ่งนอกจากพี่เขาจะเท่ดูดีเกินหน้าชายเกาหลีส่วนใหญ่ในเรื่องแล้ว ยังเล่นได้ดีทั้งคิวบู๊และฉากที่ต้องสื่ออารมณ์ทางหน้าตาอีกด้วย แจ่มไปเลยจ้า ทว่าแม้อะไรๆ ในหนังจะดูดีไปเกือบหมด แต่ว่าเราเคยเห็นหนังที่มีสูตรสำเร็จสไตล์นี้มาเยอะแล้ว(ซึ่งหนังเองก็ไม่รีรอที่จะเดินตามสูตรสำเร็จนั้นด้วย) มันเลยไม่ได้ทำให้ตื่นเต้นฮือฮาหรืออินไปกับหนังด้วยสักเท่าไหร่ ยังไงเสียก็ถือว่านี่เป็นหนังที่ดี ดูเพลิน ดูมันส์ ซึ้งได้อีก และเราก็ดีใจด้วยกับพี่วอนบิน ที่ในที่สุดก็กลับมาดังเถิดเทิงได้อีกครั้งหนึ่ง เก่งมากจ้า พ่อคุ๊ณณ

  • น่าดูเพราะ: เป็นหนังแอ็คชั่นสไตล์ Man on Fire, Taken ของเกาหลีที่ทำออกมาได้ดูสนุก ฉากบู๊มันส์ พี่วอนบินและพี่ธนายง เท่มาก ขอบอก
  • ไม่น่าดูเพราะ: มาตามสูตรสำเร็จเป๊ะๆ ไม่มีอะไรเกินคาดหมาย และเน้นคิวบู๊แรงๆ ชนิดที่อาจทำให้คอหนังเกาหลีหวานแหววบางท่านมองข้ามไปได้






*ช่วงเพลงในหนัง*

Mad Soul Child
สำหรับเพลงในช่วงเอนด์เครดิตของหนังนั้นเพราะมากๆ ฟังเผินๆ แล้วนึกว่าศิลปินฝรั่งร้อง แต่พอไปสืบมาก็พบว่าที่แท้เป็นผลงานของวงอิเลคโทรนิคป็อปทรีโอ้จากเกาหลี Mad Soul Child ต่างหาก พวกเขาฟอร์มวงกันมาตั้งแต่ปี 2001 แต่เพิ่งจะมีอัลบั้มแรกที่ชื่อ "La La La" ออกมาเมื่อปีที่แล้วนี้เอง โดยมีเพลงฮิตคือ "V.I.P. Girl" ซึ่งคอเพลงเกาหลีคงจะรู้จักกันดี ว่าแล้วเราก็เลยขอนำเพลงโคตรเพราะที่ชื่อว่า "Dear" จากในหนังมาฝากกันเสียเลย ฟังแล้วจะติดใจนะขอบอก อิอิ




MP3: Mad Soul Child - Dear



2 ความคิดเห็น:

  1. ผมอยากทราบเนื้อเพลงมากครับ รบกวนแปลให้ทีได้ไหมครับ ขอบคุณครับ
    zea-lot@hotmail.com เมลล์ผมนะครับ^^

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ8 สิงหาคม 2556 เวลา 22:26

    ทำให้นึกถึง sin city คู่บรู๊ซ กับเจสสิก้า

    ตอบลบ