วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Going the Distance (2010): รักแท้แพ้ค่าตั๋วเครื่องบิน

Going the Distance (2010) :
ในที่สุดคู่ชู้ชื่น Drew Barrymore และ Justin Long ก็มาจับคู่ขึ้นจอเป็นพระนางด้วยกันเสียที หลังจากที่เคยเฉียดกันไปเฉียดกันมาใน He's Just Not That Into You (2009)แล้ว โดยคราวนี้ทั้งคู่ก็ยังขอมาในหนังแนวโรแมนติกคอมเมดี้ นัยว่าเพื่อตัดปัญหาเรื่องเคมีไม่ลงตัวระหว่างพระนางไปได้เลยเพราะในชีวิตจริงพวกเขาออกจะสวีทหวานแหววปานกลืนกินกันอยู่แล้ว


คู่สวีทตัวจริงขอสวีทกันบนจออีกคำรบ
ส่วนเรื่องราวนั้นเล่าก็ประเภท เขาเจอเธอ เธอเจอเขา เราปิ๊งกัน เราจากกัน แต่เราก็ยังคงคบกันอยู่แม้จะอยู่ห่างไกลกันคนละฝั่งของประเทศ(นิวยอร์คกับแอลเอ) ซึ่งก็แน่นอนที่ย่อมมีอุปสรรคต่างๆ นาๆ แทรกเข้ามาให้จิตใจของทั้งคู่หงุดหงิดงุ่นง่าน จนสุดท้ายทั้งคู่ก็ต้องถามหัวใจตนเองให้ดีว่า พวกเขาจะปล่อยให้ระยะทางเป็นอุปสรรคต่อความรักของทั้งคู่หรือไม่ และจะแก้ปัญหาให้สมการรักครั้งนี้ลงตัวได้อย่างไร ก็โปรดติดตามลุ้นเอาตามอัธยาศัยบ้านใครบ้านมันกันล่ะจ้า


จะสวีทกันน่ะก็เกรงใจคนแถวนั้นบ้างเซ่
ฟังดูเหมือนว่าเนื้อเรื่องจะเดิมๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่(ซึ่งก็จริง) แต่คุณ ผกก.Nanette Burstein ที่เคยทำแต่สารคดีมาตลอดก็สามารถทำให้หนังออกมาดูเพลินได้เป็นอย่างดี หนังค่อนข้างมีมุกเกี่ยวกับเซ็กซ์เพียบแต่ก็ไม่ถึงกับลามกสัปดนจนเกินงาม ซึ่งก็ต้องเข้าใจว่านี่เป็นหนังรักตลกสำหรับหนุ่มสาววัยทำงานเขา แต่ที่ทำให้หนังออกมาดูเพลินสุดๆ คงไม่พ้นสองพระนางของเรื่องที่เปี่ยมเสน่ห์ด้วยกันทั้งคู่ และดูไม่ขัดเขินยามต้องเล่นฉากสวีทหวานหยดย้อย ซึ่งก็คงเป็นเพราะ'วัวเคยค้าม้าเคยขี่'นั่นเองแล (เหอๆ)

สองคนนี้เขาสวีทกันได้ทุกสถานการณ์
แต่ก็ไม่ใช่ว่าหนังจะไม่มีอะไรให้ตะหงิดๆ เพราะดูเหมือนว่าจะหาทางออกสำหรับปัญหาของทั้งคู่ง่ายเกินไป และยังไม่สามารถทำให้เชื่อได้หมดใจว่าทั้งคู่จะยังคงยึดมั่นต่อกันแม้จะขาดการติดต่อกันไปนานขนาดนี้แล้ว แต่เอาน่า นี่มันหนังโรแมนติกคอมเมดี้นะ แค่ออกมาดูได้เพลินๆ ไม่ติงต๊อง และให้ข้อคิดติดปลายนวมมาบ้างก็เพียงพอแล้ว โดยเฉพาะคนที่เคยมีความสัมพันธ์ระยะไกลมาก่อน ก็คงจะอินกับหนังเรื่องนี้เป็นพิเศษ ซึ่งเราก็ยังขอยืนยันอีกครั้งว่า "รักแท้แพ้ระยะทาง"จริงๆ นะจ้ะจุ๊บๆ


บรรดาเพื่อนพระเอกเนี่ยกวนโอ๊ยได้ใจเชียว
  • น่าดูเพราะ: เป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้สำหรับวัยทำงานที่ทำออกมาได้ดูเพลิน แฟนๆ คุณ Barrymore คงจะไม่ผิดหวังกัน
  • ไม่น่าดูเพราะ: เนื้อเรื่องเดิมๆ ธรรมดาไปหน่อย และมีมุกเกี่ยวกับเซ็กซ์เยอะ คุณสาวๆ ดูแล้วระวังจะตบะแตกเอาล่ะ อิอิ (หรือว่าแตกไปแล้ว?)



*ช่วงเพลงในหนัง*

The Boxer Rebellion
สิ่งที่ชวนเพลิดเพลินจำเริญใจอีกอย่างในหนังนั่นก็คือเพลงประกอบ ที่นอกจากจะมีเพลงเก่าๆ จากหนัง Top Gun (1986) ซึ่งถูกนำมาใช้ในเชิงขบขันแล้ว หนังยังขนเอาเพลงอินดี้อัลเทอร์เนทีฟโดนใจเด็กแนวและผู้ใหญ่แนวมาซะเพียบเชียว ไม่ว่าจะเป็นเพลงของ Band of Skulls, Fanfarlo, The Pretenders, The Replacements เป็นอาทิ แต่ที่เราฟังแล้วโดดเด้งขึ้นมาก็คงจะไม่พ้น Just Like Heaven เพลงคลาสสิคของ The Cure ที่ถูกใช้ในช่วงที่พระนางเราสวีทกันใหม่ๆ จนมดและแมลงวันพากันรุมตอม (อิอิ)


และที่เด่นอีกวงก็คือ The Boxer Rebellion วงอัลเทอร์เนทีฟร็อคจากอังกฤษที่ได้มาเล่นในหนังด้วย ซึ่งเพลง If You Run ของพวกเขาก็ถูกนำมาใช้ในฉากคลี่คลายปัญหารักได้อย่างชวนเคลิบเคลิ้ม และเพราะจริงๆ เลยนับว่านี่เป็นหนังที่มีแต่เพลงเพราะๆ เด็ดๆ อีกเรื่องหนึ่งของปีนี้เลยทีเดียวจ้า ขอบอก


MP3: The Boxer Rebellion - If You Run



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น